โรงแรมน้องหมาสุดหรูแห่งแรกในปารีส

 

เมื่อวันที่25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสุนัข เปิดโรงแรมระดับห้าดาวสำหรับสุนัขเป็นแห่งแรกในกรุงปารีส มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ห้องนอนหรูหรา โดยโรงแรมแห่งนี้ เปิดให้บริการโดย สแตง บูรัง ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสุนัขแห่งปารีส และเดวี่ ภรรยาสาว ก่อตั้งขึ้นเพื่อเอาใจคนรักสุนัขทั้งหลาย  ที่อยากให้สุนัขได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งอาหารการกิน ที่หลับที่นอน และกิจกรรมสารพัดประโยชน์ซึ่งบรรดาสุนัขที่มาพักที่นี่ จะได้รับการอำนวยความสะดวกและมีความเป็นอยู่ที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น สระน้ำอุ่น สปา ซาลอน ฟิตเนส และยังมีกิจกรรมเดินวิ่งในสนามหญ้าโดยครูฝึก สแตง บูรัง มาเองอีกด้วย ส่วนที่หลับที่นอนไม่ต้องพูดถึง เป็นโซฟาและเตียงนุ่มอย่างดี มีสำหรับรองรับแขกน้องหมาทุกไซส์ ตั้งแต่ชิห์สุตัวจิ๋ว ไปจนถึงโกลเด้นรีทริฟเวอร์ตัวใหญ่เลยทีเดียว สำหรับค่าที่พักสุดหรูที่นี่ สนนราคาอยู่ที่คืนละ 26-35 ยูโร หรือประมาณ 1,300 – 1,750 บาทต่อคืน แถมรับประกันอีกว่า สุนัขจะไม่นั่งเหงา หรือเซ็งแน่นอนหากมาที่นี่ เพราะทางโรงแรมจะไม่ขังสุนัขไว้ในห้อง หรือในกรงให้พวกมันอึดอัด แต่จะปล่อยให้มันได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด งานนี้เรียกได้เลยว่า สำหรับคนรักสุนัขแล้ว คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยทีเดียวล่ะ

 

ขอบคุณจาก http://www.kapook.com

ศธ. จี้ข้อสอบระดับชาติ เน้นวิเคราะห์ต่อยอดเด็ก

“ศธ” จี้ข้อสอบระดับชาติ เน้นวิเคราะห์ต่อยอดเด็ก (ไทยโพสต์)

ไชยยศ ย้ำข้อสอบระดับชาติต้องเน้นการวิเคราะห์ ให้ประโยชน์เด็กที่ตอบแบบวิเคราะห์ แม้ไม่ตรงคำเฉลย และไม่ควรออกข้อสอบออกเกินเนื้อหาที่เด็กเรียน ขณะที่คณบดีครุศาสตร์จุฬาฯ เน้นระบบคัดกรองผู้ออกข้อสอบต้องเข้มมากกว่าปัจจุบัน

นายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่องการพัฒนาการผลิตข้อสอบ และการจัดสอบระดับชาติว่า หน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกข้อสอบจะต้อง คำนึงเสมอว่าการจัดทำข้อสอบ ไม่ใช่เพื่อวัดผลและประเมินว่าเด็กมีความสามารถแค่ไหนเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องผลักดันให้กระบวนการเหล่านี้เกิดการจัดระบบการศึกษาใหม่โดยให้เด็ก รู้จักการคิดและวิเคราะห์มากขึ้น

ทั้งนี้ตนเห็นด้วยที่ปัจจุบันข้อสอบต่าง ๆ เริ่มเป็นการวัดผลเชิงวิเคราะห์มากขึ้น แต่ทั้งนี้ในการเฉลยคำตอบ หากเด็กมีความคิดเห็นที่ต่างไปจากเฉลย และมีเหตุผลที่ถูกต้องก็ขอให้พิจารณาให้คะแนนแก่เด็ก เพื่อไม่ให้เด็กเสียประโยชน์ในการนำไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ตนขอให้การออกข้อสอบครอบคลุมเนื้อหาที่เด็กเรียน เพราะที่ผ่านมาในการรับตรงของสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งออกข้อสอบเกินกว่า เนื้อหาที่เรียนในห้องเรียนทำให้เด็กต้องทิ้งห้องเรียนไปกวดวิชา หากออกข้อสอบตามเนื้อหาจะส่งผลดีให้แก่เด็กที่มีฐานะยากจนแต่เรียนดี มีโอกาสทางการศึกษาดีขึ้น

ด้าน ศ.ดร.ศิริชัย กาญจนวาสี คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบรรยายพิเศษเรื่องเป้าหมายการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ มาตรฐานและคุณภาพของข้อสอบ และแนวคิดเชิงทฤษฎีตอนหนึ่งว่า แบบทดสอบที่สร้างโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นการสอบระดับชาติ จึงต้องมีมาตรฐานสูง แบบทดสอบที่ผิดเพียง 1 ข้อ อาจทำให้ข้อสอบที่เหลือขาดความชอบธรรมไปทั้งหมดก็ได้ การออกข้อสอบจึงต้องอาศัยผู้ที่มีความรู้จริงมาออก ซึ่งต่างประเทศจะมีระบบ ตรวจสอบแบบทดสอบค่อนข้างเข้มงวด ขนาดผิดเพียง 1 ข้อ ก็มีการฟ้องร้องต่อศาลมาแล้ว

“สำหรับผู้ออกข้อสอบนั้น โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการเก็บตัวผู้ ออกข้อสอบแต่เชื่อในเรื่องของคุณธรรมของผู้ออกข้อสอบมากกว่า ซึ่งเราต้องมีระบบการคัด กรองที่เข้มข้น ซึ่งต่างประเทศคัดกรองถึงขนาดมีการตรวจสอบประวัติ นามสกุล ผู้ออกข้อสอบว่าในปีนั้นมีคนนามสกุลเดียวกันเข้าสอบด้วยหรือไม่สำหรับ ประเทศไทยอาจยังไม่ถึงขนาดนั้น”

ด้านนายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการ สทศ. กล่าวว่า สทศ.จะดำรงจุดแข็งในสิ่งที่ดีอยู่แล้วเอาไว้ แต่อะไรที่พัฒนาให้ดีขึ้นได้ก็จะพัฒนาต่อไปโดย สทศ.จะคัดเลือกผู้ออกข้อสอบที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด แต่จะเพิ่มเติมให้เรื่องความถูกต้องของข้อสอบให้มากยิ่งขึ้นและออกข้อสอบให้ ตรงกับสิ่งที่ต้องการวัด.

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

iPad 2 เตรียมเปิดตัว 2 มี.ค. นี้

หลังจากมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับ iPad 2 มาได้พักใหญ่ ในที่สุด Apple ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี ก็เชิญชวนสื่อมวลชนเข้าร่วมงานเปิดตัว iPad 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ที่ Yerba Buena Center ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ใช้เปิดตัว iPad รุ่นแรก และยังได้วางรูปแบบงานคล้ายกับงานเปิดตัว iPad รุ่นแรกอีกด้วย ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะวางจำหน่ายจริงในเดือนเมษายนนี้

โดยในปีนี้ Apple ได้ส่งอีเมล์เชิญชวนสื่อมวลชนเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ไม่มีการระบุรายละเอียดใด ๆ มากไปกว่า “มาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นในปี 2011 นี้” เท่านั้น ซึ่งก็กลายเป็นปริศนาที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว ขณะ ที่คุณสมบัติของ iPad 2 ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ว่ากันว่า จะมีขนาดบางกว่า iPad รุ่นแรก ส่วนขนาดหน้าจอยังคงมีขนาดเท่าเดิม แรม 512 MB มีกล้องถ่ายรูปด้านหน้าสำหรับใช้งาน FaceTime และวีดีโอคอนเฟอเรนส์เหมือนกับ iPhone4 แถมยังพัฒนาคุณภาพเสียงให้ดีกว่าเดิม และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมด้วย แต่ข่าวลือดังกล่าวนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามกันในวันที่ 2 มีนาคมนี้

ขณะเดียวกัน ก็มีการตั้งคำถามกันว่า สตี ฟ จ็อบส์ ซีอีโอที่เพิ่งพักงานไปรักษาอาการป่วยนั้น จะมาร่วมงานเปิดตัว iPad 2 ด้วยหรือไม่ หลังจากที่มีข่าวออกมาเป็นระลอก ๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของเขาว่า จะอยู่ได้อีกเพียงไม่ถึง 2 เดือนบ้าง มีอาการโคม่าบ้าง และยังมีมือดีแอบถ่าย สตีฟ จ็อบส์ ขณะเดินอยู่ในที่สาธารณะในท่าทางโซซัดโซเซเหมือนคนไร้เรี่ยวแรงอีก งานนี้ สื่อมวลชนจึงอยากติดตามความเคลื่อนไหวของเขาพอ ๆ กับการเปิดตัวของ iPad 2 เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี ในเรื่องของ iPad 2 ที่กำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์หน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า หากคุณสมบัติเป็นไปตามที่ร่ำลือกัน ก็จะได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เช่นเดียวกับ iPad รุ่นแรกที่แม้จะเพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน เพียงยังไม่ถึงปี ก็มียอดจำหน่ายทั่วโลกรวมแล้วกว่า 15 ล้านเครื่องแล้ว โดยนัก วิเคราะห์ตลาดได้เปิดเผยว่า ในปี 2011 นี้ เป็นปีแห่งการแข่งขันในตลาดแท็บเล็ตเลยทีเดียว ทั้งซัมซุง โมโตโลรา โซนี่ HP ซึ่งผลิตขึ้นมาให้มีคุณสมบัติและความพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกันไปในแต่ละแบ รนด์ และคาดว่า หลังจากที่ iPad 2 วางจำหน่าย แอปเปิ้ลก็จะแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้มากอย่างที่เคยเป็น ด้วยความเชื่อมั่นของผู้ใช้ที่หากพูดถึงแท็บเล็ตเมื่อไร iPad ก็ยังคงถูกนึกถึงเป็นอันดับแรก

 

ขอขอบคุณ http://www.kapook.com

 

เมื่อคนไทยกิน ‘ข้าว’ น้อยที่สุดในโลก…???

เมื่อคนไทยกิน ‘ข้าว’ น้อยที่สุดในโลก…???

ข้าว กับวัฒนธรรมไทยนั้นมีความผูกพันกันมาอย่างยาวนานลึกซึ้ง เพราะเดิมทีคนในภูมิภาคอุษาคเนย์นั้นบริโภคข้าวกันมากว่า 5,000 ปีแล้ว แต่เป็นข้าวเหนียว ไม่ใช่ข้าวเจ้าอย่างในทุกวันนี้ เพราะข้าวเจ้านั้นเข้ามาได้รับความนิยมพร้อมๆ กับการแผ่ขยายอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดีย นอกจากนี้ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกข้าวติดอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย

แต่เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ที่สถิติการบริโภคข้าวของคนไทยกลับน้อยลงอย่างน่าใจหาย เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว กินข้าวอยู่ที่ 100-110 กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น ทั้งๆ ที่ค่าเฉลี่ยการบริโภคข้าวของคนในภูมิภาคอาเซียนนั้น อยู่ที่ 200 กิโลกรัมต่อปี

นับได้ว่าคนไทยที่อยู่ในประเทศที่ปลูกข้าวมากที่สุดในโลกกินข้าวน้อยกว่า ชาติอื่นๆ ในแถบเดียวกันถึงกว่าครึ่งเลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้ถูกนำมาพูดถึงโดย นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย โดยสมเกียรติยังบอกอีกว่า ต่อไปการบริโภคข้าวของคนไทยนั้นมีแนวโน้มที่จะลดลงไปเรื่อยๆ อีกด้วย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคนไทยส่วนมากตื่นตัวในเรื่องของความอ้วนและเข้าใจว่าการ กินข้าวนั้นทำให้อ้วนมากขึ้น จึงลดปริมานในการกินลง และอีกปัจจัยก็คือการหันไปบริโภคอาหารอื่นๆ เป็นอาหารหลักแทนที่จะบริโภคข้าวเหมือนที่แล้วๆ มา

มาถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมการกินข้าวของคนไทยจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ

ตะลึง! ตู้ปลาเล็กที่สุดในโลก

 

ตะลึง! ตู้ปลาเล็กที่สุดในโลก

อนาโตลี โคเนนโก อาร์ตติสชาวรัสเซีย ได้ประดิษฐ์และคิดค้นตู้ปลาขนาดเล็กที่สุดในโลก ซึ่งตู้ปลานี้สามารถใช้งานได้จริง และเลี้ยงปลาได้จริง ซึ่งตู้ปลาดังกล่าวมีความกว้าง 30 มม. ยาว 14 มม. และสูง 14 มม. แต่สามารถบรรจุน้ำได้แค่เพียง 10 มม. หรือ 2 ช้อนโต๊ะเท่านั้น

 



เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก1

เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

 

Love Julinsee รักมันใหญ่มาก (M๓๙)

ในบางทีรักไม่เกี่ยง…รุ่น

หลาย ๆ ทีไม่ต้องรักมาก แต่ต้อง…ชัดมาก

บาที รักได้ก็ต้อง…รอได้

และถ้าคิดจะรักเพื่อน ก็ต้องยอมเสีย…เพื่อนรัก

เพราะความรัก…

มัน..ใหญ่..มาก

ฤดูร้อน… นี้ ความรัก..จะเป็นใหญ่

นำแสดงโดย

ฝน – อภิญญา  สกุลเจริญสุข (สายป่าน)

หยก – จิรายุ ละอองมณี (เก้า)

โย – อเล็กซานเดอร์ เรนเดลล์ (อเล็ก)

ไบร์ท – ณัฐชา  จันทพันธ์ (เม้าส์)

โบ้ท – ณัฐพงษ์  พิบูลธนเกียรติ  (เอ็มดี)

นาว – ทิสานาฏ  ศรศึก  (นาว)

เอื้อ – มนชนก  แสงฉายเพียงเพ็ญ (โม)

ปลา – ไอรดา  ศิริวุฒิ  (ไอด้า)

น้ำ – ดาราธิป  เพียรวัจนธรรม  (แพมแพม)

แอน – กมลนัทธ์ ชาลวนิชสุทธิ์ (หยก)

ป้อ – ชาลินี บุนนาค (ใบปอ)

แม่ ป้อ-ปลา – หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊)

ทุกโรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศ ……ที่มีรัก

ผลงานภาพยนตร์ เรื่องล่าสุดจาก  M๓๙ เลิฟ จุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

เรื่องย่อ เลิฟจุลินทรีย์ รักมันใหญ่มาก

กลางหุบเขา คอนเสิร์ตบิ๊กเมาท์เท่น ผู้คนหลากหลายกลุ่มวัย ต่างหลั่งไหลเพื่อจะมาสุดเหวี่ยงกับสุดยอด วงดนตรีในเมืองไทยแบบไม่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย พาราด็อกซ์ เป็นอีกหนึ่งวงที่มีแฟนคลับทั่วประเทศ กำลังใจจดจ่อ เพื่อจะได้มาสุดเหวี่ยงกับพวกเขา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรื่องราว ความรัก ของวัยรุ่นหลายคู่ มีบทเพลงของ  พาราด็อกซ์ ดังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความทรงจำ และเมื่อบทเพลงของพาราด็อกซ์เริ่มบรรเลงขึ้น ก็ทำให้หนุ่มสาวเหล่านั้นนึกไปถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ในจุดต่าง ๆ ของคอนเสิร์ต  เรามองเห็น ต่างผู้คนยืนต่างที่กัน หน้าเวที กลางสนามหญ้า ป้ายบอกทาง ต่างคนต่างยืนอยู่ในมุมต่าง ๆ ของคอนเสิร์ตที่ต่างความรู้สึกและต่างมิติกัน

นาว (นาว ทิสานาฏ  ศรศึก) สาวน้อยน่ารักจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ เดินทางมากับเพื่อนสาว แอน (หยก กมลนัทธ์ ชาลวนิชสุทธิ์) เพื่อรอฟังเพลงโปรดของพาราด็อกซ์ และเมื่อเพลงบรรเลงขึ้น มันให้นาวปล่อยใจให้คิดถึง โย (อเล็กซ์ เรนเดลล์) หนุ่มน้อยที่จูบเธอเป็นคนแรก และ เป็นครั้งแรกในชีวิตมาที่นี่ด้วย นาวนึกไปถึงความรักครั้งนั้น . . .

“ใจยักษ์”… ตัวแทนความรู้สึกของคนที่มีหัวใจตรงกัน ทั้งคู่ต่างรู้อยู่แก่ใจว่ารักกัน แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดยอมเปิดปากพูดบอกรักกันให้ชัด ๆ ไปเสียที

ปลา (ไอด้า – ไอรดา  ศิริวุฒิ) สาว น้อยนักดนตรี แฟนคลับตัวยงของวงพาราด็อกซ์ ตั้งใจแบ๊คแพ๊ค เดินทางมาบิ๊กเมาท์เท่น    หวังใจว่าจะมากรีดร้องให้สุดเหวี่ยง เต้นให้สุดพลัง เพื่อล้างใจให้ลืม หนุ่มนักรัก (ไบร้ท – เม้าส์ ณัฐชา จันทพันธ์ หรือ เม้าส์ วง บีโอวาย) แต่เมื่อเพลงบรรเลงขึ้นก็ทำให้เธอนึกไปถึงวันเก่า ๆ กับความรักที่ผ่านมาของเธอ

“รอ”… ตัวแทนความรู้สึกของคนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งการทรมาน ไม่มีคำตอบใดๆชัดเจนพอที่จะสรุปได้ว่า ที่ “รอ” อยู่นั้น เป็นการ “รอ” เพื่อ “รัก” หรือ “รอ” เพื่อ “เลิก” กันแน่

ฝน (สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข) รุ่นพี่ ม.6 ที่ฮอตสุด ๆ ตัวแม่เรื่องความสวย เซ็กซี่ ใครเห็นใครก็มอง ใครเห็นก็หลงรัก วันหนึ่งเธอมาเจอกับรุ่นน้อง ม.4 โบ้ท (เอ็มดี – ณัฐพงศ์  พิบูลธนเกียรติ) ที่ปลื้มเธอมาก งานนี้ รักข้ามรุ่นจะออกมาวุ่นขนาดไหน

“ลำปาง หนาวมาก” … ใครต่อใครก็คงเคยมีความรู้สึกแอบรักรุ่นพี่ ที่ภาษาวัยรุ่นพูดว่า คบรุ่นใหญ่ หรือใคร ๆ ก็คงเคยมีความรู้สึกกิ๊กกั๊กรักรุ่นน้องให้ชีวิตมันสดใสซาบซ่า…ไม่ว่าจะคบ รุ่นไหน “ความรัก” ก็สามารถทำให้ ลำปางหนาวมากได้ !!

หยก (เก้า – จิรายุ ละอองมณี) กับ เอื้อ (โม – มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เพื่อน รัก ที่ กิน เที่ยว เล่น เรียน ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แต่เมื่อวันหนึ่งปาท่องโก๋ ขอขยับสถานะมาเป็นแฟน ทำให้เขาทั้งคู่รู้ว่าตอนที่เป็นเพื่อน มันสนุก ขำ หัวเราะ เฮฮา บ้าบอ แต่พอมาเป็นแฟน  รอยยิ้ม ทำไมมันไม่เหมือนเดิม

“เพื่อน รัก” … ใคร ๆ ก็คงเคยมีเพื่อนรัก แล้วก็คงคิดว่าจะต้องเป็นเพื่อนรัก กันไปตราบนานแสนนาน แต่อยู่ดี ๆ วันหนึ่งหัวใจ เจ้ากรรม ดันเล่นตลกเปลี่ยนจากความเป็นเพื่อน แปรเปลี่ยนเป็นความรัก ที่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และ ท้ายสุดทำให้ทั้งคู่คิดตัดสินใจว่าจะเดินหน้า หรือ ถอยหลังคนละก้าวเพื่อให้เหลืออะไรสักอย่าง

สุด ท้ายเรื่องราว “ความรัก” ที่ค้างใจของทั้งสี่คู่จะได้รับคำตอบ ณ คอนเสริ์ต บิ๊กเมาท์เท่น แห่งนี้ ไปพร้อม ๆ กับ พาราด็อกซ์  หรือไม่ ???

เมื่อเราย้อนกลับไปมองความรักครั้งแรกในชีวิต มันทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องรักนั้น มันช่าง น่ารัก น่าขัน และ มีรสชาติหอมหวาน อร่อย มีคุณค่า เหมือนนมที่เติมจุลินทรีย์ จนมาเป็นนมเปรี้ยว

แต่.. ในช่วงเวลาที่มันเกิดขึ้นน่ะเหรอ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความรักมันช่างเป็นเรื่องใหญ่มาก…สำหรับชีวิตของเรา จริง ๆ ..นะ !!

รักไม่ใช่ทุกอย่าง แต่รักคือสิ่งเดียว ที่ทำให้เราอยู่ไม่ได้หากปราศจากมัน

ฤดูร้อนนี้ รักจะเป็นใหญ่ ผลงานการกำกับของ 2 ผู้กำกับเลือดใหม่ “เค – ไชยณรงค์ แต้มพงษ์” + “ฉิก – สกล เตียเจริญ”

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

True grit

 

True grit ยอดคนจริง (UIP)

กำหนดฉาย :  24 กุมภาพันธ์ 2011
แนว : ทริลเลอร์ ดราม่า
นำแสดง : เจฟฟ์ บริดเจส, แม็ตต์ เดม่อน, จอช โบรลิน, แบร์รี่ เป๊ปเปอร์, เฮลี่ สไตน์เฟลด์, บรูซ กรีน
กำกับ : อีธาน โคเอน (Ethan Coen), โจเอล โคเอน (Joel Coen)

 

True Grit คือเรื่องราวผจญภัยในโลกคาวบอยราวกับเทพนิยาย โดยว่าด้วยเรื่องราวของความพยาบาทเคียดแค้นและความกล้าหาญ จากงานกำกับของผู้กำกับระดับรางวัลออสการ์ โจล และอีธาน โคเอน ที่ช่วยกันดัดแปลงบทอันน่าตื่นเต้นที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน การเล่าเรื่องที่แสนห้าวหาญ และความงดงามที่หยาบกระด้างของนิยายคลาสสิกสัญชาติอเมริกันของ ชาร์ลส์ พอร์ทิส

ในยุค 1870 อเมริกาเพิ่งผ่านสงครามกลางเมืองมา และคนเล่าเรื่องก็คือ แม็ทตี้ รอสส์ ที่ออกเดินทางมายังฟอร์ทสมิธ, อาร์แคนซอส์ โดยตั้งใจจะมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการตายของพ่อของเธอ ที่ถูกยิงตายอย่างเลือดเย็น สีสันของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือทีมนักแสดง ซึ่งประกอบไปด้วย นักแสดงชายเจ้าของรางวัลออสการ์ เจฟฟ์ บริดเจส (Crazy Heart), นักแสดงชายผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ แม็ตต์ เดม่อน (Invictus), นักแสดงชายผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จอช โบรลิน (Milk), แบร์รี่ เป๊ปเปอร์ (Saving Private Ryan) และนักแสดงหน้าใหม่ เฮลี่ สไตน์เฟลด์ ในบทหนึ่งในนางเอกสาวที่เก่งกล้าที่สุดในผลงานวรรณกรรม True Grit เขียนบทและกำกับโดย โจลและอีธาน โคเอน และอำนวยการสร้างโดย สก็อตต์ รูดิน, อีธาน โคเอน และโจล โคเอน ทีมผู้อำนวยการสร้างบริหาร ได้แก่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก, โรเบิร์ต กราฟ, เดวิด เอลลิสัน, พอล ชเวก และเมแกน เอลลิสัน

แม็ทตี้ รอสส์ (สไตน์เฟลด์) เดินทางมาถึงฟอร์ทสมิธ เพื่อเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัว เพื่อตามหาคนตาขาว ทอม ชานี่ย์ (โบรลิน) ซึ่งมีคนบอกว่าเป็นคนฆ่าพ่อของเธอเพื่อทองคำสองชิ้น ก่อนจะเดินทางหลบหนีไปยังเขตแดนของพวกอินเดียนแดง เพราะต้องการตามหาตัวชานี่ย์ และเห็นเขาโดนแขวนคอกับตา แม็ทตี้จึงได้ขอความช่วยเหลือจากชายที่ลือกันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่อำมหิต ที่สุดของเมืองนั่นก็คือจอมขี้เมา รูสเตอร์ ค็อกเบิร์น (บริดเจส) ผู้ตกลงใจจะตามล่าตัวชานี่ย์ให้ แต่ชานี่ย์ยังตกเป็นเป้าหมายของมือปราบเท็กซัสช่างจ้ออย่าง ลาบัฟ (เดม่อน) ที่ตั้งใจจะจับฆาตกรรายนี้ และนำตัวกลับไปรับรางวัลก้อนโตที่เท็กซัส ทำให้ทั้งสามต้องมาปะทะกันในระหว่างตามสะกดรอย แต่ละคนต่างมุ่งมั่น ดื้อรั้น และมีหลักการในเรื่องความถูกต้องไม่เหมือนกัน สามชีวิตต้องผจญกับการคิดบัญชีที่คาดไม่ถึง เมื่อพวกเขาพบตัวเองตกอยู่ท่ามกลางเรื่องราวที่ไม่ต่างจากตำนาน ที่มีทั้งอันตราย ความโหดร้าย ความกล้าหาญ และการเป็นอิสระจากการหลงผิด ความทรหดและความรักแสนบริสุทธิ์

ทีมงานหลังกล้องของภาพยนตร์เรื่องนี้ประกอบไปด้วยทีมงานที่เคยทำงานให้กับ ผลงานในอดีตของพี่น้องโคเอน อาทิเช่น ผู้กำกับภาพที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ โรเจอร์ ดีกิ้นส์, เอเอสซี, บีเอสซี  (The Man Who Wasn’t There, O Brother Where Art Thou?), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ เจสส์ กอนชอร์ (Capote, No Country for Old Men) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย แมรี่ โซเฟรส (Catch Me If You Can, O Brother Where Art Thou?) ผู้ลำดับภาพ ได้แก่ ร็อดเดอริค เจย์นส์ และผู้แต่งดนตรีประกอบคือ คาร์เตอร์ เบอร์เวลล์

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

The Eagle

 

The Eagle ฝ่าหมื่นตาย (M Pictures)

กำหนดฉาย : 24 กุมภาพันธ์ 2554
แนว : แอ็คชั่น
นำแสดง : Channing Tatum (G.I. Joe:The Rise of Cobra), Jamie Bell (King Kong, Jumper,)
กำกับ : Kevin MacDonald (The Last King of Scottland)

จุดเด่น The Eagle

– ดัด แปลงจากหนังสือขายดี The Eagle of The Ninth โดย Rosemary Sutcliff กลายมาเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นยิ่งใหญ่ผลงานของผู้กำกับและผู้เขียนบท The Last King of Scotland พร้อมทีม Visual Effect จาก 10,000 B.C., Robinhood และ Elisabeth: The Golden Age ที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์อันร้อนระอุให้กระหึ่มบนจอภาพยนตร์

– รวมนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งที่ฮ็อตที่สุดของฮอลลีวูด Channing Tatum จาก G.I. Joe: The Rise of Cobra และ Step Up พร้อมด้วย Jamie Bell จาก King Kong และ Jumper

เกริ่นนำ

ในศตวรรษที่ 2 ประเทศอังกฤษ ชายหนุ่ม 2 คน คนหนึ่งเป็น เจ้านาย อีกคนเป็นทาส ทั้ง 2 อยู่บนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังดินแดนห่างไกลสุดชายชอบ ดินแดนที่เต็มไปด้วยภัยอันตราย บนเส้นทางที่ เป็นบทพิสูจน์ ระหว่างความจงรักภักดีกับการทรยศหักหลัง, มิตรภาพ, ความเคียดแค้น, การล่อลวง และ จิตวิญญาณของวีรบุรุษ

เรื่องราวการผจญภัย ในภาพยนตร์มหากาพย์โรมัน The Eagle กำกับฯโดย เควิน แม็คโดนัลด์ อำนวยการสร้างโดย ดันแคน เคนเวอร์ธี บทภาพยนตร์โดย เจรามี่ โบรค ดัดแปลงจาก นิยายคลาสสิคชื่อดัง The Eagle of the Ninth ของ โรสแมรี่ ซูทคลิฟฟ์

เรื่อง The Eagle

140 ปี ก่อนคริสตกาล ในช่วงเวลาที่อาณาจักรโรมันกำลังรุดหน้าขยายอาณาเขตเข้ามายังเกาะอังกฤษ แต่ติดอยู่ที่ดินแดน ของชาวคาเลโดเนีย (ปัจจุบันคือ สก็อตแลนด์) ชนเผ่าที่เดินทางร่อนเร่อยู่ทางเหนือของอังกฤษ

มาร์คัส อาเกลล่า (แชนนิ่ง ตาตั้ม) ออก เดินทางเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของผู้เป็น บิดา เฟลเวียส์ อาเกลล่า ผู้ซึ่งเมื่อ20 ปีก่อน ได้รับมอบหมายให้นำตราสัญลักษณ์อินทรีทองคำ และกองทหารโรมัน 5,000 นาย เดินทางผ่านมายังดินแดนคาเลโดเนีย  แต่ทั้งหน่วยทหารและ ตราอินทรี กลับหายสาบสูญไปในหมอกแห่งดินแดนเหนือ

จักรพรรดิแฮเดรียนแห่งอาณาจักรโรมัน ได้บัญชาให้สร้างแนวกำแพงเป็นแนวกั้นดินแดน ซึ่งต่อมาโลกรู้จักในชื่อ กำแพงแห่งจักรพรรดิแฮเดรียน ในฐานะเป็นเส้นแสดงสุดเขตพรมแดนด้านเหนือสุดของจักรวรรดิโรมัน มาร์คัส ต่อมาได้เติบใหญ่เป็นทหาร และ ได้รับคำสั่งให้มาเฝ้าดูแลป้อมปราการเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ มาร์คัส นำหน่วยของเขาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของโรมันอย่างกล้าหาญ จนเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บ จึงได้กลับพักฟื้นร่างกาย  ที่ วิลล่าของ ลุง อากูลล่า (โดนัลด์ ซูทเธอร์แลนด์) อดีตทหารเก่า ที่ปัจจุบันเกษียณแล้ว

ต่อมา มาร์คัส ถูกเร่งเร้าให้เข้าร่วมการประลองต่อสู้ ตามแบบฉบับชาวอังกฤษ ลุงอากูลล่า ได้ซื้อเด็กหนุ่มเชื้อสายอังกฤษ เอสก้า (เจมี่ เบลล์) ให้ มาเป็นทาสรับใช้ มาร์คัส แต่มาร์คัส ไม่ได้อยู่ในสายตาของเอสก้าเลยแม้แต่น้อย เอสก้าเป็นผู้ที่จะมอบความจงรักภักดี ให้แต่เพียงผู้ที่เคยช่วยชีวิตตนเท่านั้น

เมื่อได้ยินคำร่ำลือเรื่องการออกค้นหาตราอินทรีที่สูญหายไปในดินแดนทาง เหนืออันไกลโพ้น มาร์คัส ก็โดดเข้าร่วมปฎิบัติการ ออกค้นหา โดยร่วมทางไปกับ เอสก้า ทั้งคู่ เดินทางฝ่าฟัน ไม่ท้อถอยต่อกำแพงของแเฮเดรียน จนข้ามผ่านมาได้ แต่เมื่อถึงดินแดนที่ราบสูงแห่งโคเลโดเนีย พื้นแผ่นดินกว้างใหญ่สุดแสนทุรกันดาร ชีวิตของมาร์คัสต้องฝากไว้กับ เอสก้า ทาสผู้นำทาง  เมื่อทั้งสอง พบกับอดีตทหารโรมันเก่า กรูน (มาร์ค สตรอง) มาร์คัส จึงล่วงรู้ ว่า ปริศนาการสูญหายของพ่อ มีความเกี่ยวข้องกับตัวตนที่แท้จริงของทาสรับใช้ของเขา

และ มีเพียงความจงรักภักดีเป็นเดิมพัน เมื่อทั้งสอง นายและทาสต้องเผชิญหน้ากับนักรบผู้ปราศจากความกลัว อย่าง ซิล  ปรินต์ (ทาฮาร์  ราฮิม)

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Faster

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก